เมื่อคนในตระกูลหรือใกล้ชิดเข้าข่ายเหงาหงอย หลักมองดูง่ายๆ ควรสังเกตพฤติกรรมดังต่อไปนี้
กิริยาท่าทางที่เกิดจากการแปรเปลี่ยนทางความคิดเห็น โรคปวดหลัง
คือมักจะมีความคิดเห็นไปในทาง Negative Thinking หรือความนึกคิดที่เป็นด้านลบเป็นนิสัย มักจะรู้สึกท้อแท้ มองโลกในแง่ร้าย ปวดหลัง รู้สึกผิด รู้สึกตัวเองไร้ค่าไม่มีความหมาย และคิดว่าไม่มีทางบำบัดได้ ในที่สุดก็จะคิดทำร้ายตัวเอง คิดถึงแต่เรื่องความตาย และพยายามที่จะอัตวินิบาตกรรมท่าทางที่เกิดจากการเปลี่ยนทางการเรียนหรือการทำงาน มักไม่สนใจบริเวณแวดล้อม ความสนุก งานอดิเรก โรคปวดหลัง หรือกิจกรรมที่เพิ่มความสนุก รวมทั้งกิจกรรมทางเพศ รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีพลัง การทำงานช้าลง การงานแย่ลง ไม่มีสมาธิ ความจำเสื่อม การตัดสินใจแย่ลง
ความประพฤติที่เกิดจากความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์คือ โรคปวดหลัง
มักจะมีความรู้สึกซึมเศร้า กังวลอยู่ตลอดเวลา มักหงุดหงิดฉุนเฉียว โกรธง่าย อยู่ไม่สุข กระวนกระวาย เป็นต้น ท่าทางที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเด่นชัด เช่น นอนไม่หลับ ปวดหลัง ตื่นเร็ว หรือบางรายหลับมากเกินไป บางคนเบื่ออาหารทำให้น้ำหนักลด บางคนรับประทานอาหารมากทำให้น้ำหนักเพิ่ม มีอาการทางกายรักษาด้วยยาธรรมดาไม่หาย เช่น อาการปวดศีรษะ แน่นท้อง ปวดเรื้อรัง ความสัมพันธ์กับบุคคลอื่นแย่ลง ต้องลองพิจารณาตัวเองและคนใกล้ชิดว่ามีใครเป็นโรคซึมเศร้าบ้างในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ปวดหลัง หากพบว่ามีอาการดังกล่าวอย่างน้อย 4 ข้อ ต้องพยายามระมัดระวังความคิด และพยายามดึงตัวเองออกมาจากภาวะนั้นให้ได้ พยายามเตือนตัวเองให้มีสติอยู่ตลอดเวลาว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ คิดอะไรอยู่ที่ทำให้รู้สึกไม่ดีหรือเปล่า หากรู้ตัวว่าไม่สามารถหยุดความคิดได้ หรือยิ่งรู้สึกสิ้นหวังแบบรุนแรงจนรู้สึกหมดซึ่งหนทางที่อยากจะใช้ชีวิตต่อไป ต้องรวบรวมกำลังเพื่อให้โอกาสตัวเอง โรคปวดหลัง โดยการหาทางระบายความคิดและความรู้สึกของตัวเองออกมา แต่การให้โอกาสที่ดีกับตัวเองต้องพยายามเปิดใจหาผู้ที่ท่านมั่นใจว่าช่วยเหลือท่านได้จริงๆ หรือปรึกษาแพทย์ชำนัญพิเศษโดยตรงเพื่อความปลอดภัยจากภาวะไม่มีชีวิตชีวาที่เป็นอยู่ ณ ขณะนั้นให้ได้
Posted: September 4th, 2014 under Uncategorized.